วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ค่ำคืนแห่งจันทรา



วันนี้ก็ขอประเดิมเปิดบล็อค 945 Neverland ก่อนเลยนะจ๊ะ

ก่อนอื่น ก็ขอแนะนำตัวบล็อคคร่าวๆ ก่อนแล้วกัน

945 Neverland.blogspot.com
เป็นบล็อคที่จัดทำขึ้นโดย พลอย ปลา และ เอิร์ธ แห่งห้อง 945 เองแหละจ้ะ
จุดประสงค์ที่ทำขึ้น พูดตามตรงก็คือ ทำเป็นคะแนนสอบไฟนอลวิชาคอมพิวเตอร์...ฮ่าๆๆ

ไม่สิๆ ต้องพูดถึงสิ่งบล็อคนี้จะนำเสนอถึงจะถูกใช่ไหมคะ ?

บล็อคนี้จะมุ่งเน้นนำเสนอนิทาน เรื่องเล่า ที่พวกเราทั้งสามคนหามา หรือแต่งขึ้นเอง มาแบ่งปันให้เพื่อนๆทุกคนอ่านค่ะ
หวังว่าบล็อคแห่งนี้จะช่วยให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านรู้สึกผ่อนคลายสบายใจขึ้นจากความเครียดที่สะสมมาในแต่ะวันๆแล้วกันนะคะ (เอ๊ะ..หรืออ่านแล้วจะเครียดหนักกว่าเก่าหว่า ? ฮึๆๆ)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันนี้ ปลา จากบล็อค yeohaenggi (แน่ะ แอบโฆษณา) ขอชะแว้บมาลงเอ็นทรี่เปิดบล็อคแห่งนี้ค่ะ
อันที่จริง สิ่งที่จะนำเสนอวันนี้ ไม่ใช่นิทาน หรือเรื่องเล่าหรอกค่ะ
(เอ่อ... แต่รู้สึกว่าหล่อนจะเพิ่งพูดไปหยกๆว่าจะนำเสนอนิทาน เรื่องเล่า บลาๆ)
การลงเพลง ก็ถือว่าเข้าข่ายใช่ไหมคะ ? ใช่ไหมคะ? นะ~นะ~ ฮ่าๆๆ

ก็คือ วันนี้มีเพลงจะนำเสนอค่ะ

อันที่จริง นี่ไม่ใช่เวอร์ชั่นอย่างเป็นทางการของเพลงนี้หรอกค่ะ
เป็นเวอร์ชั่นที่มีแฟนเพลงเขาเอามาเล่นเป็นฉบับเปียโนน่ะค่ะ
แล้วอยากจะนำเสนอเนื้อเพลงของมันด้วย พอดีว่าชอบน่ะค่ะ เผื่อใครฟังแล้ว อาจจะอยากไปสืบค้นหาเวอร์ชั่นจริงของเพลงนี้ต่อไป ฮ่าๆๆ

จริงๆ เพลงนี้เคยมีคนแปลเป็นไทยเมื่อปีที่แล้วแล้วล่ะค่ะ แต่วันนี้ มัจฉานุอย่างเรา ขอลงมือแปลเพลงนี้เองบ้าง อาจจะแปร่งๆหน่อยไม่ว่ากันนะคะ

ชื่อเพลง : Harudal (ฮารุดัล) ~ ค่ำคืนแห่งจันทรา
(เพลงนี้มีอีกเวอร์ชั่นนึงที่ชื่อว่า 'Day Moon' ค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะแปลเป็นไทยให้สละสลวยขอเป็น ค่ำคืนแห่งจันทรา แล้วกันนะ)
Credit Harudal Piano Version goes to :: TVXQ Piano @ Live Journal

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฉันเอื้อมมือไขว่คว้าหาท้องฟ้า
สายฝนกระหน่ำลงมาพร้อมกับสายลมที่พัดแรง และ...
ใครคนหนึ่งเข้ามากุมเกี่ยวมือของฉันเอาไว้
ให้ฉันรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม

ใครๆก็กล่าวกันว่า รสชาติแห่งสิ่งที่กำลังจะมาเยือนนี้ขมขื่นยิ่งกว่ายาพิษ แต่ก็กลับหวานหอมยิ่งกว่าความรัก
คนบางคนอาจจะเข้าใจความหมายของ 'ความรัก' อย่างผิดๆไปบ้าง แต่สำหรับฉันแล้ว...
คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน

ครั้นเมื่อดวงจันทราลาลับ ดวงดาราส่องประกายเกลื่อนกลาดดาดผืนฟ้า ถึงคราบุปผาแบ่งบานแล้วร่วงโรย
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ

ก่อนสิ่งใดนั้น ฉันเฝ้าแต่รอ
หากกาลเวลาหมุนไปเรื่อยๆ ฉันก็คงจะยิ้มได้อีกครั้งหนึ่ง
ฉันจะลบล้างอดีตอันแสนละโมบของฉัน ที่เฝ้าปรารถนาแต่ในสิ่งที่ฉันไม่มีวันครอบครองได้

ใครๆก็กล่าวกันว่า รสชาติแห่งสิ่งที่กำลังจะมาเยือนนี้ขมขื่นยิ่งกว่ายาพิษ แต่ก็กลับหวานหอมยิ่งกว่าความรัก
คนบางคนอาจจะเข้าใจความหมายของ 'ความรัก' อย่างผิดๆไปบ้าง แต่สำหรับฉันแล้ว...
คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน

ครั้นเมื่อดวงจันทราลาลับ ดวงดาราส่องประกายเกลื่อนกลาดดาดผืนฟ้า ถึงคราบุปผาแบ่งบานแล้วร่วงโรย
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ

ครั้นเมื่อดวงจันทราลาลับ ดวงดาราส่องประกายเกลื่อนกลาดดาดผืนฟ้า ถึงคราบุปผาแบ่งบานแล้วร่วงโรย
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อืม....เกี่ยวกับนิทานม้ากมากเลยเนาะ มา~~~กก เลย (ประชดหรอกจ้ะ)
อยากจะบอกว่าที่เอาลงนี่เพราะความลำเอียงผสมเอาแต่ใจ อยากลงก็ต้องได้ลงของข้าพเจ้านั่นแล
พอดีว่าชอบเพลงนี้ ยิ่งไปฟังเวอร์ชั่นจริงแล้ว อู้ววส์ ทั้งเสียงเปียโน กีตาร์ ไวโอลิน สุดยอดด
(สรุปว่ายัยนี่มันหลงใหลคลั่งใคล้เครื่องดนตรีคลาสสิค 555+)
แล้วความหมายของเพลง... บอกตามตรงว่าจนป่านนี้ ข้าพเจ้าก็ยังออกอาการงงเล็กน้อย
ให้ตายเถอะ ไม่รู้ว่าอันตัวเรานี้สมองสุนัขปัญญากระบือเกินคน หรือว่าคนแต่งเพลงมันล้ำลึกจนคนเอ๋อๆอย่างเราหยั่งไม่ถึงเชิงเขาว้า ?

เอาเป็นว่า ไม่รู้เรื่องตลอดทั้งเพลงหรอก แต่ว่า ถูกใจท่อนหลายท่อนในเพลงนี้น่ะค่ะ โดยเฉพาะท่อนฮุกที่ว่า

ครั้นเมื่อดวงจันทราลาลับ ดวงดาราส่องประกายเกลื่อนกลาดดาดผืนฟ้า ถึงคราบุปผาแบ่งบานแล้วร่วงโรย
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ

อันที่จริง ข้าพเจ้าว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้พระจันทร์ดับ ฟ้าเกลื่อนดาว หรือรอให้ดอกไม้บานแล้วร่วงหรอกค่ะ
บางที ทุกคนในโลกนี้ อาจจะไม่สามารถให้คำสัญญาที่แท้จริงต่อกันได้หรอกค่ะ
ข้าพเจ้าเองก็ยังกลัวการให้สัญญาเลย (เป็น promise-phobia เหรอวะ !?)

ก็...ก็....
ถ้าให้สัญญาอะไรใครไป แล้วทำไม่ได้อย่างที่เคยให้คำมั่นไว้
ก็มีแต่เสียกับเสียนะคะ
ผู้รับสัญญาเสีย(ใจ) ผู้ให้คำสัญญาก็เสีย(ความน่าเชื่อถือ) จริงไหมเอ่ย ?

แต่นี่ไม่ได้พูดให้ทุกคนเข็ดขยาดกับการให้ คำสัญญา หรอกนะคะ
เพียงแต่อยากให้คิดดูให้ดี คิดดูให้ถี่ถ้วนก่อนเท่านั้นแหละค่ะ
ก่อนจะสัญญาใคร ช่วยมั่นใจให้ได้ก่อนนะคะ ว่าตัวเองจะทำตามที่สัญญาได้
จะได้ไม่เสีย(ใจ) และไม่เสีย(ความน่าเชื่อถือ) ไงคะ ?

ส่วนไอ้นี่

ใครๆก็กล่าวกันว่า รสชาติแห่งสิ่งที่กำลังจะมาเยือนนี้ขมขื่นยิ่งกว่ายาพิษ แต่ก็กลับหวานหอมยิ่งกว่าความรัก
คนบางคนอาจจะเข้าใจความหมายของ 'ความรัก' อย่างผิดๆไปบ้าง แต่สำหรับฉันแล้ว...
คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน

โอ้ว่า ความรักนั้นประดุจดังดาบสองคมค่ะทุกท่าน มีทั้งสุข(ที่ว่าหอมหวาน)และทุกข(ที่ว่าขมขื่น)นั่นแหละค่ะ

ขอให้เรา 'รัก' อย่างเข้าใจ 'รัก' ให้ถูกทาง แล้ว ด้านหอมหวาน ก็จะมีโผล่มาจ๊ะเอ๋กับเรามากกว่าด้านที่ขมขื่นนะคะ
(ฝากเอาไว้สำหรับเหล่าวัยสะรุ่นทั้งหลายนะคะ ฮ่าๆๆ รับวันวาเลนไทน์กันทีเดียว)

เอาล่ะ หมดเอ็นทรี่นี้แล้ว ปลาน่อย ขอลาไปก่อน คราวหน้าอาจจะเจอกับเอิร์ธ หรือไม่ก็ พลอย มาอัพบล็อคแห่งนี้นะคะ
สุดท้ายนี้ก็ขอฝาก 945 เนเวอร์แลนด์ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของประชาชี 945 ด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ !

ไม่มีความคิดเห็น: