สวัสดี มาเสล่ออีกแล้ว พลอยเองจ้า คือเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนิยายเลย แต่เราอยากให้ลองอ่านดูเล่นๆ
รู้จักคน ๆ นี้มั้ย
เพื่อนคนที่เก็บ lecture ให้คุณยามคุณขาดเรียนโดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า
เพื่อนคนที่เราไม่ต้องพูดอะไรเพื่อเอาใจเขา
เพื่อนคนที่เราเจอกันตอนเช้าแล้วคุณอยากเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนคุณฝันถึงอะไร
เพื่อนคนที่เราเอ่ยชื่อทุกครั้ง เวลาพ่อแม่ถามว่าอยู่คุยกับใคร ไปกินข้าวกับใครมา
เพื่อนคนที่เราเคยยืมเงินมากเกินหลักพัน
เพื่อนคนที่คุณอยู่ด้วยกันท่ามกลางความเงียบแล้วไม่อึดอัด
เพื่อนคนที่รู้ว่าเดือน ๆ หนึ่งเราอ่านหนังสืออะไรบ้าง ซื้อเทปใครบ้าง
เพื่อนคนที่รู้ว่าร้านไหนเป็นร้านโปรดของเรา
เพื่อนคนที่คนที่เราคิดว่า ถ้างานนั้นไม่มีเขา เราคงกร่อย
เพื่อนคนที่เรารู้ว่าเขาชอบใคร แล้วตอนนี้สถานการณ์ถึงไหน
เพื่อนคนที่โทรหาเราเพราะต้องการคำปรึกษา ไม่ใช่แค่เล่าให้ฟัง
เพื่อนคนที่คนอื่นเขาเวลาเจอเรา ต้องถามหาเขา
เพื่อนคนที่เราไม่เจอกันไปสามเดือน แล้วไม่ต้องกังวลว่าอะไร ๆ จะไม่เป็นเหมือนเดิม
เพื่อนคนที่เรา.... (อื่น ๆ อีกมากมาย)
อ่านจบแล้วคุณคิดคิดถึงใคร ... คน ๆ นั้น คือ “เพื่อนสนิท” ของคุณเอาง่าย ๆ เวลาคุณเจอคนอื่น เขาถามถึงเพื่อนคนไหนของคุณ มีมั้ยถ้ายัง หาซะนะ พยายามคิดถึงเรื่อง “การคบเพื่อนเชิงคุณภาพ” ...ไม่ใช่ปริมาณ เคยมั้ย “เหงาท่ามกลางคนมากมาย” ...อีกอย่างเพื่อนไม่ใช่แฟนนะ ..เพราะกับเพื่อนเราจะทะเลาะกันเรื่องใหญ่ ๆ ไม่ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆแต่กะแฟนเรามักจะทะเลาะกันเรื่องเล็ก ๆ จริงมั้ย ??!?
วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
ขนม คน-รัก-กัน
สวัสดีจ้าาาา เพื่อนๆ
เราพลอยนะ ถึงเวลาแล้วสินะ ถึงเวลาแล้ววววว... ที่เราจะมาเสล่อ เอ๊ย!! มาเสนอ <แอบแป๊ก>เรื่องราวหนุกๆ ที่เราได้ไป<ลอก>มาด้วยตัวเอง ฮ่า.ฮ่า. น่าสนใจใช่ไหม? เราขอรับประกันว่าไม่"อันศิวิไลซ์"แน่นอน เริ่มกันเลยนะ
เรื่องนี้น่าจะเป็นตำนานของขนมชนิดหนึ่งซักชนิด<ต้องไปอ่านกันนะ แล้วจะรู้>น่าสนใจดี เราเลยนำให้มาอ่านกันหนุกๆ
ไอ้กะทิ หนุ่มน้อยแห่งดงมะพร้าวเตี้ย แอบมีความรักกับ หนูแป้ง สาวสวยประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เจอกันวันลอยกระทง และสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ไม่ว่าข้างหน้าแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด ทั้งคู่ก็จะขอยึดมั่นความรักแท้ที่มีต่อกันชั่วฟ้าดินสลาย
ไอ้กะทิ ก้มหน้าก้มตาเก็บหอมรอมริบหาเงินเพื่อมาสู่ขอลูกสาวจากผู้ใหญ่บ้านแต่กลับถูกปฏิเสธแถมยังโดนผู้ใหญ่ส่งชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือมาลอบทำร้าย แต่ไอ้กะทิก็ไม่ว่ากระไร มันพาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน นอนหยอดน้ำข้าวต้มซะหลายวัน แต่ใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาสู่ขอหนูแป้งใหม่จนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน
แต่แล้วความฝันของไอ้กะทิ ก็พังพินาศเมื่อผู้ใหญ่ยก หนูแป้ง ลูกสาวคนสวยให้แต่งงานกับปลัดหนุ่มจากบางกอก ไอ้กะทิ รู้ข่าวจึงรีบกระเสือกกระสนหมายจะมายับยั้งการแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็วางแผนป้องกันไว้แล้ว โดยขุดหลุมพรางดักรอไว้ แต่แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้ายเสียก่อน จึงลอบหนีออกมาหมายจะห้ามหนุ่มคนรักไม่ให้ตกหลุมพราง
คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม หนูแป้งวิ่งฝ่าความมืดออกมาเพื่อดักหน้าไอ้กะทิ ไอ้กะทิเห็นหนูแป้งวิ่งมาก็ดีใจทั้งคู่รีบวิ่งเข้าหากัน ฉับพลัน!!...ร่างของหนูแป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพรางของผู้ใหญ่ฯผู้เป็นพ่อ ต่อหน้าต่อตาไอ้กะทิ อารามตกใจนายกะทิก็รีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือหนูแป้ง อารามดีใจสมุนชายฉกรรจ์ของผู้ใหญ่บ้านซึ่งแอบซุ่มอยู่ ก็รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบหลุมที่ทั้งคู่หล่นลงไป เพราะคิดว่าในหลุมมีเพียงไอ้กะทิผู้เดียว ...
รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ขุดหลุมเพื่อดูผลงาน แทบไม่เชื่อสายตาเบื้องล่างปรากฏร่างของ ไอ้กะทิตระกองกอดทับร่างหนูแป้งลูกสาวของตน ทั้งสองนอนตายคู่กันอย่างมีความสุข เมื่อรอยยิ้มถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตา ผู้ใหญ่บ้านรำพึงต่อหน้าศพของลูกสาวว่า..
"พ่อไม่น่าคิดทำลายความรักของลูกเลย"
ตั้งแต่นั้นมาอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี ทุกแรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้กะทิ กับ แม่แป้ง ก็จะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวานปรุงจากแป้ง และกะทิ บรรจงหยอดลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเป็นสัญลักษณ์ว่า "จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป" ขนมนี้จึงถูกเรียกขานกันในนาม "ขนมแห่งความรัก" หรือ ขนม คน-รัก-กัน ต่อมาถูกเรียกย่อ ๆ ว่า 'ขนม ค-ร-ก' นั่นเอง
นี่เป็นเรื่องแรกที่เรามาลงไว้ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ บายจ้ะ
เราพลอยนะ ถึงเวลาแล้วสินะ ถึงเวลาแล้ววววว... ที่เราจะมาเสล่อ เอ๊ย!! มาเสนอ <แอบแป๊ก>เรื่องราวหนุกๆ ที่เราได้ไป<ลอก>มาด้วยตัวเอง ฮ่า.ฮ่า. น่าสนใจใช่ไหม? เราขอรับประกันว่าไม่"อันศิวิไลซ์"แน่นอน เริ่มกันเลยนะ
เรื่องนี้น่าจะเป็นตำนานของขนมชนิดหนึ่งซักชนิด<ต้องไปอ่านกันนะ แล้วจะรู้>น่าสนใจดี เราเลยนำให้มาอ่านกันหนุกๆ
ไอ้กะทิ หนุ่มน้อยแห่งดงมะพร้าวเตี้ย แอบมีความรักกับ หนูแป้ง สาวสวยประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เจอกันวันลอยกระทง และสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ไม่ว่าข้างหน้าแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด ทั้งคู่ก็จะขอยึดมั่นความรักแท้ที่มีต่อกันชั่วฟ้าดินสลาย
ไอ้กะทิ ก้มหน้าก้มตาเก็บหอมรอมริบหาเงินเพื่อมาสู่ขอลูกสาวจากผู้ใหญ่บ้านแต่กลับถูกปฏิเสธแถมยังโดนผู้ใหญ่ส่งชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือมาลอบทำร้าย แต่ไอ้กะทิก็ไม่ว่ากระไร มันพาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน นอนหยอดน้ำข้าวต้มซะหลายวัน แต่ใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาสู่ขอหนูแป้งใหม่จนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน
แต่แล้วความฝันของไอ้กะทิ ก็พังพินาศเมื่อผู้ใหญ่ยก หนูแป้ง ลูกสาวคนสวยให้แต่งงานกับปลัดหนุ่มจากบางกอก ไอ้กะทิ รู้ข่าวจึงรีบกระเสือกกระสนหมายจะมายับยั้งการแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็วางแผนป้องกันไว้แล้ว โดยขุดหลุมพรางดักรอไว้ แต่แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้ายเสียก่อน จึงลอบหนีออกมาหมายจะห้ามหนุ่มคนรักไม่ให้ตกหลุมพราง
คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม หนูแป้งวิ่งฝ่าความมืดออกมาเพื่อดักหน้าไอ้กะทิ ไอ้กะทิเห็นหนูแป้งวิ่งมาก็ดีใจทั้งคู่รีบวิ่งเข้าหากัน ฉับพลัน!!...ร่างของหนูแป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพรางของผู้ใหญ่ฯผู้เป็นพ่อ ต่อหน้าต่อตาไอ้กะทิ อารามตกใจนายกะทิก็รีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือหนูแป้ง อารามดีใจสมุนชายฉกรรจ์ของผู้ใหญ่บ้านซึ่งแอบซุ่มอยู่ ก็รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบหลุมที่ทั้งคู่หล่นลงไป เพราะคิดว่าในหลุมมีเพียงไอ้กะทิผู้เดียว ...
รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ขุดหลุมเพื่อดูผลงาน แทบไม่เชื่อสายตาเบื้องล่างปรากฏร่างของ ไอ้กะทิตระกองกอดทับร่างหนูแป้งลูกสาวของตน ทั้งสองนอนตายคู่กันอย่างมีความสุข เมื่อรอยยิ้มถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตา ผู้ใหญ่บ้านรำพึงต่อหน้าศพของลูกสาวว่า..
"พ่อไม่น่าคิดทำลายความรักของลูกเลย"
ตั้งแต่นั้นมาอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี ทุกแรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้กะทิ กับ แม่แป้ง ก็จะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวานปรุงจากแป้ง และกะทิ บรรจงหยอดลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเป็นสัญลักษณ์ว่า "จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป" ขนมนี้จึงถูกเรียกขานกันในนาม "ขนมแห่งความรัก" หรือ ขนม คน-รัก-กัน ต่อมาถูกเรียกย่อ ๆ ว่า 'ขนม ค-ร-ก' นั่นเอง
นี่เป็นเรื่องแรกที่เรามาลงไว้ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ บายจ้ะ
วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
ค่ำคืนแห่งจันทรา
ก่อนอื่น ก็ขอแนะนำตัวบล็อคคร่าวๆ ก่อนแล้วกัน
945 Neverland.blogspot.com
เป็นบล็อคที่จัดทำขึ้นโดย พลอย ปลา และ เอิร์ธ แห่งห้อง 945 เองแหละจ้ะ
จุดประสงค์ที่ทำขึ้น พูดตามตรงก็คือ ทำเป็นคะแนนสอบไฟนอลวิชาคอมพิวเตอร์...ฮ่าๆๆ
จุดประสงค์ที่ทำขึ้น พูดตามตรงก็คือ ทำเป็นคะแนนสอบไฟนอลวิชาคอมพิวเตอร์...ฮ่าๆๆ
ไม่สิๆ ต้องพูดถึงสิ่งบล็อคนี้จะนำเสนอถึงจะถูกใช่ไหมคะ ?
บล็อคนี้จะมุ่งเน้นนำเสนอนิทาน เรื่องเล่า ที่พวกเราทั้งสามคนหามา หรือแต่งขึ้นเอง มาแบ่งปันให้เพื่อนๆทุกคนอ่านค่ะ
หวังว่าบล็อคแห่งนี้จะช่วยให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านรู้สึกผ่อนคลายสบายใจขึ้นจากความเครียดที่สะสมมาในแต่ะวันๆแล้วกันนะคะ (เอ๊ะ..หรืออ่านแล้วจะเครียดหนักกว่าเก่าหว่า ? ฮึๆๆ)
หวังว่าบล็อคแห่งนี้จะช่วยให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านรู้สึกผ่อนคลายสบายใจขึ้นจากความเครียดที่สะสมมาในแต่ะวันๆแล้วกันนะคะ (เอ๊ะ..หรืออ่านแล้วจะเครียดหนักกว่าเก่าหว่า ? ฮึๆๆ)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้ ปลา จากบล็อค yeohaenggi (แน่ะ แอบโฆษณา) ขอชะแว้บมาลงเอ็นทรี่เปิดบล็อคแห่งนี้ค่ะ
อันที่จริง สิ่งที่จะนำเสนอวันนี้ ไม่ใช่นิทาน หรือเรื่องเล่าหรอกค่ะ
(เอ่อ... แต่รู้สึกว่าหล่อนจะเพิ่งพูดไปหยกๆว่าจะนำเสนอนิทาน เรื่องเล่า บลาๆ)
การลงเพลง ก็ถือว่าเข้าข่ายใช่ไหมคะ ? ใช่ไหมคะ? นะ~นะ~ ฮ่าๆๆ
ก็คือ วันนี้มีเพลงจะนำเสนอค่ะ
อันที่จริง นี่ไม่ใช่เวอร์ชั่นอย่างเป็นทางการของเพลงนี้หรอกค่ะเป็นเวอร์ชั่นที่มีแฟนเพลงเขาเอามาเล่นเป็นฉบับเปียโนน่ะค่ะ
แล้วอยากจะนำเสนอเนื้อเพลงของมันด้วย พอดีว่าชอบน่ะค่ะ เผื่อใครฟังแล้ว อาจจะอยากไปสืบค้นหาเวอร์ชั่นจริงของเพลงนี้ต่อไป ฮ่าๆๆ
จริงๆ เพลงนี้เคยมีคนแปลเป็นไทยเมื่อปีที่แล้วแล้วล่ะค่ะ แต่วันนี้ มัจฉานุอย่างเรา ขอลงมือแปลเพลงนี้เองบ้าง อาจจะแปร่งๆหน่อยไม่ว่ากันนะคะ
ชื่อเพลง : Harudal (ฮารุดัล) ~ ค่ำคืนแห่งจันทรา
(เพลงนี้มีอีกเวอร์ชั่นนึงที่ชื่อว่า 'Day Moon' ค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะแปลเป็นไทยให้สละสลวยขอเป็น ค่ำคืนแห่งจันทรา แล้วกันนะ)
Credit Harudal Piano Version goes to :: TVXQ Piano @ Live Journal
(เพลงนี้มีอีกเวอร์ชั่นนึงที่ชื่อว่า 'Day Moon' ค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะแปลเป็นไทยให้สละสลวยขอเป็น ค่ำคืนแห่งจันทรา แล้วกันนะ)
Credit Harudal Piano Version goes to :: TVXQ Piano @ Live Journal
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฉันเอื้อมมือไขว่คว้าหาท้องฟ้า
สายฝนกระหน่ำลงมาพร้อมกับสายลมที่พัดแรง และ...
ใครคนหนึ่งเข้ามากุมเกี่ยวมือของฉันเอาไว้
ให้ฉันรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม
ใครๆก็กล่าวกันว่า รสชาติแห่งสิ่งที่กำลังจะมาเยือนนี้ขมขื่นยิ่งกว่ายาพิษ แต่ก็กลับหวานหอมยิ่งกว่าความรัก
คนบางคนอาจจะเข้าใจความหมายของ 'ความรัก' อย่างผิดๆไปบ้าง แต่สำหรับฉันแล้ว...
คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน
ครั้นเมื่อดวงจันทราลาลับ ดวงดาราส่องประกายเกลื่อนกลาดดาดผืนฟ้า ถึงคราบุปผาแบ่งบานแล้วร่วงโรย
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ
ก่อนสิ่งใดนั้น ฉันเฝ้าแต่รอ
หากกาลเวลาหมุนไปเรื่อยๆ ฉันก็คงจะยิ้มได้อีกครั้งหนึ่ง
ฉันจะลบล้างอดีตอันแสนละโมบของฉัน ที่เฝ้าปรารถนาแต่ในสิ่งที่ฉันไม่มีวันครอบครองได้
ใครๆก็กล่าวกันว่า รสชาติแห่งสิ่งที่กำลังจะมาเยือนนี้ขมขื่นยิ่งกว่ายาพิษ แต่ก็กลับหวานหอมยิ่งกว่าความรัก
คนบางคนอาจจะเข้าใจความหมายของ 'ความรัก' อย่างผิดๆไปบ้าง แต่สำหรับฉันแล้ว...
คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน
ครั้นเมื่อดวงจันทราลาลับ ดวงดาราส่องประกายเกลื่อนกลาดดาดผืนฟ้า ถึงคราบุปผาแบ่งบานแล้วร่วงโรย
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ
ครั้นเมื่อดวงจันทราลาลับ ดวงดาราส่องประกายเกลื่อนกลาดดาดผืนฟ้า ถึงคราบุปผาแบ่งบานแล้วร่วงโรย
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อืม....เกี่ยวกับนิทานม้ากมากเลยเนาะ มา~~~กก เลย (ประชดหรอกจ้ะ)
อยากจะบอกว่าที่เอาลงนี่เพราะความลำเอียงผสมเอาแต่ใจ อยากลงก็ต้องได้ลงของข้าพเจ้านั่นแล
พอดีว่าชอบเพลงนี้ ยิ่งไปฟังเวอร์ชั่นจริงแล้ว อู้ววส์ ทั้งเสียงเปียโน กีตาร์ ไวโอลิน สุดยอดด
(สรุปว่ายัยนี่มันหลงใหลคลั่งใคล้เครื่องดนตรีคลาสสิค 555+)
แล้วความหมายของเพลง... บอกตามตรงว่าจนป่านนี้ ข้าพเจ้าก็ยังออกอาการงงเล็กน้อย
ให้ตายเถอะ ไม่รู้ว่าอันตัวเรานี้สมองสุนัขปัญญากระบือเกินคน หรือว่าคนแต่งเพลงมันล้ำลึกจนคนเอ๋อๆอย่างเราหยั่งไม่ถึงเชิงเขาว้า ?
เอาเป็นว่า ไม่รู้เรื่องตลอดทั้งเพลงหรอก แต่ว่า ถูกใจท่อนหลายท่อนในเพลงนี้น่ะค่ะ โดยเฉพาะท่อนฮุกที่ว่า
ครั้นเมื่อดวงจันทราลาลับ ดวงดาราส่องประกายเกลื่อนกลาดดาดผืนฟ้า ถึงคราบุปผาแบ่งบานแล้วร่วงโรย
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ
เราไม่อาจให้คำมั่นสัญญาต่อสิ่งใด
แต่ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณไป
เพราะสำหรับฉันแล้ว คุณคือโลกทั้งใบ
อันที่จริง ข้าพเจ้าว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้พระจันทร์ดับ ฟ้าเกลื่อนดาว หรือรอให้ดอกไม้บานแล้วร่วงหรอกค่ะ
บางที ทุกคนในโลกนี้ อาจจะไม่สามารถให้คำสัญญาที่แท้จริงต่อกันได้หรอกค่ะ
ข้าพเจ้าเองก็ยังกลัวการให้สัญญาเลย (เป็น promise-phobia เหรอวะ !?)
ก็...ก็....
ถ้าให้สัญญาอะไรใครไป แล้วทำไม่ได้อย่างที่เคยให้คำมั่นไว้
ก็มีแต่เสียกับเสียนะคะ
ผู้รับสัญญาเสีย(ใจ) ผู้ให้คำสัญญาก็เสีย(ความน่าเชื่อถือ) จริงไหมเอ่ย ?
ก็มีแต่เสียกับเสียนะคะ
ผู้รับสัญญาเสีย(ใจ) ผู้ให้คำสัญญาก็เสีย(ความน่าเชื่อถือ) จริงไหมเอ่ย ?
แต่นี่ไม่ได้พูดให้ทุกคนเข็ดขยาดกับการให้ คำสัญญา หรอกนะคะ
เพียงแต่อยากให้คิดดูให้ดี คิดดูให้ถี่ถ้วนก่อนเท่านั้นแหละค่ะ
ก่อนจะสัญญาใคร ช่วยมั่นใจให้ได้ก่อนนะคะ ว่าตัวเองจะทำตามที่สัญญาได้
จะได้ไม่เสีย(ใจ) และไม่เสีย(ความน่าเชื่อถือ) ไงคะ ?
ส่วนไอ้นี่
ใครๆก็กล่าวกันว่า รสชาติแห่งสิ่งที่กำลังจะมาเยือนนี้ขมขื่นยิ่งกว่ายาพิษ แต่ก็กลับหวานหอมยิ่งกว่าความรัก
คนบางคนอาจจะเข้าใจความหมายของ 'ความรัก' อย่างผิดๆไปบ้าง แต่สำหรับฉันแล้ว...
คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน
คนบางคนอาจจะเข้าใจความหมายของ 'ความรัก' อย่างผิดๆไปบ้าง แต่สำหรับฉันแล้ว...
คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน
โอ้ว่า ความรักนั้นประดุจดังดาบสองคมค่ะทุกท่าน มีทั้งสุข(ที่ว่าหอมหวาน)และทุกข์(ที่ว่าขมขื่น)นั่นแหละค่ะ
ขอให้เรา 'รัก' อย่างเข้าใจ 'รัก' ให้ถูกทาง แล้ว ด้านหอมหวาน ก็จะมีโผล่มาจ๊ะเอ๋กับเรามากกว่าด้านที่ขมขื่นนะคะ
(ฝากเอาไว้สำหรับเหล่าวัยสะรุ่นทั้งหลายนะคะ ฮ่าๆๆ รับวันวาเลนไทน์กันทีเดียว)
เอาล่ะ หมดเอ็นทรี่นี้แล้ว ปลาน่อย ขอลาไปก่อน คราวหน้าอาจจะเจอกับเอิร์ธ หรือไม่ก็ พลอย มาอัพบล็อคแห่งนี้นะคะ
สุดท้ายนี้ก็ขอฝาก 945 เนเวอร์แลนด์ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของประชาชี 945 ด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ !
วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
[ ตำนาน ภาษาใจ Vs ดนตรี ]
เพื่อนๆ ก็ยินดีต้อนรับสู้ Naver Land นะ ก็อยากจะเเนะนำบริเวณหนึ่งให้ได้รู้จักกัน
เเต่ พวกเราก็ยังไม่ได้เขาไปเจอกะมันจริงๆ หรอก นะ เลยไม่มีในเเผนที่ซะด้วยสิน้า
ก็เลยจอขอเล่าเพียงเเค่ตำนานของสถานที่นั้นเเล้วกันนะ เค้าเล่าดันมาว่า
กาลครั้งหนึ่งนานเเล้ว ณ หมู่บ้านเเห่งอันไกลโพ้น ไกลเเสน ไกล จน คุณไม่รู้จัก
ยังมี ชายผู้หนึ่งเค้ามีความไม่สมประกอบทางร่างกาย เค้าเป็นชายพิการ ผู้มิอาจะพูดได้
เค้าใช้อุปกรณ์ดนตรีในการสื่อความหมายเเทน เเต่กลับไม่มีใครฟังเเละเข้าใจเค้าเลย
เค้าพยายามออกเดินทางหาคนที่เข้าใจเเละมองโลกใบหนึ่งเหมือนที่เค้ามอง
คนที่รู้สึกเเละพร้อมจะเดินไปกับเขา เเต่ นานเท่าใด เค้าก็ยังไม่พบสักที
ในขณะที่เธอผู้หนึ่งผู้มีความเป็นศิลปินในตัวเอง เธอก็ออกเดินทางเพื่อหาอะไรสักอย่าง
เพื่อมาเติ่มเต็ม ให้ศิลปะของเธอ เธอรักศิลปะ รักการวาดรูป เเละรักเสียงเพลง
วันหนึ่ง ขณะทีทั้งสองเดินทางาถึงเมือง NeverLand 945
ทั้ง 2 ต่างทำหน้าที่ของตน ตามที่ตนตั้งใจ เเละพวกเขาก็มาเจอกันด้วยหตุบังเอิญ
( เเต่จริงๆ เเล้วโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกนะ รุ รึ เป่า ถ้าไม่รุ ไปอ่าน Holic ดูสิ กิกิ )
พวกเขาต่างหลงรักซึ่งกันเเละ กัน เค้าต่างคิดว่า เขาได้อยู่ในโลกของกันเเละกัน
"อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ" เขาต่างกล่าวให้กันเเละกันเสมอมาอย่างไม่รู้ตัว
จะรู้ตัวได้ไงล่ะ เค้าเป็นใบ้กันนิ นะ พวกเขาต่างส่งความรู้สึกผ่านกัน
โดยไม่ต้องพูดจา บางที มันอาจจะดีก็ได้นะ ความรักของเขาตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ความเข้าใจ
ไ ม่ เ เน่ น ะ ถ้าพูดได้ เค้าอาจะทะเลาะกัน รึ ทำไร อี ก ห ล าย ๆ อย่าง ที่ ค นพู ด ไ ด้ ทำ กั น
เขาอาจจะ ทะเลาะ จน เลิก หรือ อาจจะพูดจาไม่รุเรื่องก็ได้นะ เเต่เค้าไม่เคยพูดกันนิ ก็เลยไม่รุหรอก
" ฉันรักเธอ " พวกเขาต่างส่งข้อความหวานซึ้ง ผ่านทาง ดนตรี รู้ภาพ เเละเขารักกันจนตราบนิจนิรันดร์
The end ( หรอ )
มันอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆ นะ
ชั่งเป็นเรื่องที่งดงาม " ภาษาดนตรี " เเต่!!!คงจะไม่มีใครหวนถึงคำๆ นี้หรอกนะ" ภาษาใจ "
รู้ความจริง รึเป่า จริงๆ เเล้ว ผู้หญิงคนนั้นนะ พูดได้หรอก นะเพียงเเต่เค้าไม่พูดเพราะ คนที่เขารักไม่พูด
เเละอีกอย่างเธอ เธอ . . เธอ ไม่สามารถได้ยินเสียงของดนตรีที่ชายผู้นั้น เล่นหรอก
เพราะเธอสูญเสียโสตประสาทด้านการรับรู้เรื่องเสียงตั้งเเต่เกิด เเต่เธอก็เข้าใจเขา เเละ รักเขา จนสุดหัวใจ
ส่วนเขา ความจริงเเล้ว การรับรู้ทางตาบกพร่องตั้งเเต่ยังเล็ก ทุกครั้งที่เธอวาดรูปให้ เขาจะใช้การสัมผัส เเทน
เขามักบอกเพียงเเค่ " เค้า ชอบ การ สัม ผัส มาก กว่า "
เขารู้ลึกถึงจิตใจที่อ่อนโยนของเธอ เเละ รัก ในเเบบที่เธอเป็น รักเธอมาก รักเธอไม่เเพ้กับที่เธอรักเขาเลย
บางทีสิ่งที่เห็นอาจจะไม่เหมือนสิ่งที่เป็น คำพูดทำได้หลายๆ ทาง มีทั้งเเง่ดี จริงใจ เเละเเง่ ร้าย โกหกหลอกลวง
" บางทีสิ่งที่สำคัญกว่าการพูดจาอาจจะเป็นความเข้าใจก็ได้นะ สิ่งที่ เขาตั้งชื่อให้มันว่า ' ภาษาใจ 'นะ "
บางทีคุณอาจเคยได้ยินที่เขาว่า ' ถ้าไม่พูดจะรู้ม่ะ ว่าคิดไรอยู่ ' จะบอกเลย ว่ารู้สิ ถ้าคุณ สนิทกะเขาจริงๆ เเน่นอน คุณรู้เเน่
ฮะๆ นี้ก็ เป็นเรื่องเล่าย่อๆ ของรูปปั้น เครื่องดนตรี เเละ พู่กัน ที่ถูก ปั้นเเละ วางไว้ บริเวณสวนสาธารณะ
ที่ที่คุณอาจจะได้พบเจอ เมื่อมีใครสักคนชวนคุณไป คนที่คุณรัก เเละ เขารักคุณ อย่างสุดหัวใจ
มันอยู่บริเวณที่ยากจะพบเจอ ที่หนึ่งของเมืองเลย ทำไม นะรึ ก็ ไอ้เจ้าบริเวณนี้นะมันถูกสร้างขึ้นจาก
คนอื่นที่มิใช่เรานะ สิ เลย ไม่ได้ทำ โครงสร้างเเผนที่เอาไว้ เฮ้อ ถ้า พวกฉันได้เจอจะเขียนเเผนที่ไห้ไว้เเล้วกันนะ
อ๊าก !!!! ง า น เ ข้ า ๆ ๆ ๆ ไ ป ดู เ เ ล ส่ ว น อื่ นก่อน นะ
โลกของคุณเป้นไงบ้าง น้า รู้เป่าว่า Naver Land ของเราวุ่นกันมากๆ มีงานเลี้ยงกันทุกวัน
เฮ้อ ฉันละเหนื่อยจริงๆ เเต่ก็ มีความสุขมากๆ บะบาย ถ้ามีเรื่องดี เเล้วฉันจะมาเล่าใหม่นะ
- ใ คร สั กค น ใ น Never Land 02 -
ปล. รู้เป่าว่าสิ่งที่เขาบอกเราในเรื่องมีจุดผิดอยู่ ตรงไหน น้า .. ไหน น้า ??
ที่เขาบอกว่า ต่างอยู่ของกันเกนไงล่ะ จริงๆ เเล้ว พวกเขา ต่างมองโลกต่างกัน เเละ
โลกที่เขาอยู่นั้นนะ พวกเขาไม่ได้อยู่โลกเดิมที่เดินไปๆมาๆระหว่างโลกของกันเเละกัน เเต่อยู่ในโลกใบเดียวกัน
" โลกที่ถูกสร้างจากความรักเละ ความเข้า ใจ ~^_______________^ ~ "
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)